จะเป็นให้ได้เลย Web Animator - GSAP คืออะไร? ทำไมทำ Motion บท Website ต้องใช้เครื่องมือนี้
Nook - The Duckrr “ทำเว็บไซต์เป็นธุรกิจไม่ได้แล้ว” อันนี้คือสิ่งที่ผมซึ่งทำเว็บไซต์มากว่า 5 ปี ตกผลึกได้ในปี 2025 ด้วย 3 เหตุผลนี้
- ความต้องการมีเว็บไซต์ลดลง แบรนด์เล็กๆ ไปจนถึงแบรนด์ใหญ่ๆ ให้ความสำคัญกับการผลิตคอนเทนต์และสร้างแบรนด์บนโซเชียลมีเดียมากกว่า
- ผลกระทบจาก AI ที่ทำให้ประสิทธิภาพของการทำ SEO ลดลง ทำให้การทำเว็บไซต์แบบเล็กๆ หรือทำแค่พอมี ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจอย่างที่คาดหวัง การทำการตลาดผ่านเว็บไซต์อย่าง Google Ads ก็ได้ประสิทธิภาพไม่เท่าเดิม เพราะ Customer Journey ของลูกค้ามันยุ่งเหยิงไปหมด
- จำนวนผู้เล่นในตลาดนักออกแบบและนักพัฒนาเว็บไซต์มีจำนวนมหาศาล ทั้งในรูปแบบธุรกิจและฟรีแลนซ์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ทำให้เราสร้างเว็บไซต์แบบง่ายๆ ได้เยอะแยะไปหมด
ด้วยเหตุผลนี้เอง ผมที่เพิ่งลาออกจากงานประจำ ถึงแม้จะมั่นใจว่าตัวเองมีความเชี่ยวชาญในการทำเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ เพราะเคยเป็นถึงหัวหน้าแผนกการตลาดที่สร้างยอดขายให้กับธุรกิจมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ก็คิดว่าการทำเว็บไซต์ธุรกิจแบบเดิมเป็นธุรกิจที่ไม่น่าสนใจอีกแล้ว
อะไรคือ Web Animator
แต่ความคิดของผมเปลี่ยนไปเมื่อผมได้เห็นเทรนด์ของเว็บไซต์ที่เล่าเรื่องราวด้วยสิ่งที่เรียกว่า Motion ซึ่งมันสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจมากกว่าเว็บไซต์แบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย จริงๆ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ เว็บไซต์ดังๆ อย่าง apple หรือ samsung ก็ทำเว็บไซต์ในรูปแบบนี้มานานแล้ว
เมื่อก่อนผมคิดว่ามันคงยากมาก มันไกลตัวมาก เพราะผมไม่ได้เรียนด้านการเขียนโค้ดมาเป็นเมเจอร์หลัก แต่เรียนมาด้านงานออกแบบ และมีความรู้ด้านการทำ UX/UI มากกว่า แต่ปัจจุบันผมได้เรียนรู้ในเรื่องของการเขียนโค้ดมากขึ้นด้วยความหลงใหล ซึ่งก็พอจะเขียนโค้ดด้วยภาษาพื้นฐานอย่าง HTML, CSS, JS ได้บ้างแล้ว นอกจากนี้เดี๋ยวนี้ยังมี AI ที่เราสามารถถามได้ทุกเรื่องที่เราอยากรู้ การเรียนรู้มันทั้งสะดวกแล้วก็สนุกขึ้นมาก
โอเค, ผมเลยตัดสินใจจะพิสูจน์ความคิดของตัวเอง ว่าถ้าเกิดผมสามารถเล่าเรื่องราวธุรกิจของลูกค้าด้วยเว็บไซต์ที่เหมือนมีชีวิต โต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างน่าสนใจ ผลงานที่ผมทำมันจะมีคุณค่ามากขึ้น แล้วมันยังจะสามารถเป็นธุรกิจให้ผมต่อไปได้หรือไม่? นี่คือเส้นทางใหม่ของผมในฐานะนักออกแบบและนักพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งผมคิดว่าก่อนที่ผมจะสามารถออกแบบเว็บไซต์ที่เน้นเรื่องโมชั่นได้ ผมควรต้องรู้ก่อนว่ามันจะต้องพัฒนายังไง อันนี้มันเป็นแค่วิธีการเรียนรู้ในแบบของผมนะครับ ทุกคนอาจจะเรียนรู้โดยวิธีอื่นก็ได้
GSAP คืออะไร
ผมได้ไปลองหาข้อมูลแล้วก็ศึกษาดูจากหลายๆ แหล่งข้อมูล แล้วคิดว่าแนวทางที่น่าจะเรียนรู้ได้ง่ายที่สุดสำหรับผมคือไลบรารีที่มีชื่อว่า GSAP ซึ่งนอกจากชื่อที่ดูลึกลับแล้ว ก็ยังเป็นไลบรารีแอนิเมชันที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน เว็บไซต์ที่ผมชอบหลายๆ เว็บไซต์ก็ใช้เครื่องมือนี้ด้วย (ใครอยากเห็นตัวอย่างเจ๋งๆ ลองเข้าไปดูใน Showcase ของ GreenSock ได้เลยครับ)
GSAP ย่อมาจาก GreenSock Animation Platform เป็นไลบรารีแอนิเมชัน JavaScript ที่มีประสิทธิภาพสูง สร้างขึ้นสำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ ไปทำความรู้จัก GSAP จากที่ผมได้ไปศึกษามากันครับ
คุณสมบัติหลักของ GSAP คือ
GSAP ช่วยให้เราสามารถสร้างแอนิเมชันได้อย่างง่ายดายในทุกสิ่งที่ JavaScript สามารถเข้าถึงได้ (animate anything JS can touch) โดยมอบคุณภาพการแสดงผลที่ลื่นไหล (silky smooth performance) และประสิทธิภาพที่เหนือกว่า แม้ในแอนิเมชันที่ซับซ้อน
GSAP เป็นโซลูชันแบบครบวงจรสำหรับทุกความต้องการด้านแอนิเมชันบนเว็บ ซึ่งถูกนำไปใช้ในเว็บไซต์ที่น่าตื่นเต้นมากมายที่มีแอนิเมชันการเลื่อน (scrolling animations) เอฟเฟกต์ Parallax หรือลูกเล่นการเลื่อนที่น่าสนใจ บริษัทชั้นนำหลายแห่ง เช่น Gucci, Spotify, Nike, Shopify, และ Google ล้วนใช้ GSAP
GSAP สามารถทำอะไรได้บ้าง
- แอนิเมชันที่หลากหลาย: สามารถสร้างแอนิเมชันได้ตั้งแต่ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UIs), SVG, ไปจนถึงประสบการณ์ 3 มิติที่สมจริง
- การควบคุมที่ยืดหยุ่น: มอบความยืดหยุ่นและการควบคุมในระดับสูงในการสร้างลำดับเวลา (sequences) และเอฟเฟกต์ที่ซับซ้อน
- แอนิเมชันการเลื่อน: สามารถสร้างเอฟเฟกต์ทริกเกอร์การเลื่อน (scroll trigger effects) ที่ให้การควบคุมที่แม่นยำเหนือแอนิเมชันและไทม์ไลน์
- ผสานรวมกับ 3D: GSAP ถูกใช้ร่วมกับไลบรารี 3D อย่าง Three.js เพื่อสร้างโมเดล 3D ที่สามารถโต้ตอบได้
-
การทำงานร่วมกับเฟรมเวิร์ก: GSAP มีการทดสอบและรองรับอย่างกว้างขวางในเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ถึงแอนิเมชันที่สอดคล้องกัน และมี React Hook เฉพาะคือ
useGSAPเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานกับ React
วิธีการทำงานของ GSAP
GSAP ใช้วิธีการพื้นฐานหลายวิธีในการสร้างและจัดการแอนิเมชัน (เรียกว่า "tweens")
gsap.to()
ใช้สำหรับแอนิเมชันองค์ประกอบจากสถานะปัจจุบันไปยังสถานะใหม่ คือ เราสามารถกำหนดองค์ประกอบเป้าหมาย (target) และระบุคุณสมบัติที่เราต้องการให้องค์ประกอบนั้นใช้เมื่อแอนิเมชันสิ้นสุด
gsap.from()
ใช้เพื่อกำหนดแอนิเมชันจากสถานะใหม่ (ที่เรากำหนด) ไปยังสถานะปัจจุบันขององค์ประกอบ ซึ่งต่างจาก gsap.to() ตรงที่แอนิเมชันจะเริ่มต้นจากคุณสมบัติที่เราระบุ แล้วกลับไปยังคุณสมบัติดั้งเดิม
gsap.fromTo()
ใช้เพื่อกำหนดแอนิเมชันจากสถานะใหม่ไปยังสถานะใหม่ โดยเราสามารถกำหนดวัตถุสำหรับคุณสมบัติเริ่มต้น (from object) และวัตถุสำหรับคุณสมบัติสุดท้าย (to object) ได้ทั้งคู่ วิธีนี้มีประโยชน์เมื่อเราต้องการแก้ไขทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของแอนิเมชัน
การควบคุมแอนิเมชันขั้นสูง:
gsap.timeline()
เป็นเครื่องมือจัดลำดับที่ทำหน้าที่เป็นคอนเทนเนอร์สำหรับแอนิเมชันหลายรายการ ช่วยให้เราสามารถจัดการแอนิเมชันทั้งหมดเป็นกลุ่ม และควบคุมเวลาของแอนิเมชันเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ แทนที่จะใช้ delay สำหรับทุกแอนิเมชัน คุณสามารถกำหนดว่าแอนิเมชันใดจะเกิดขึ้นต่อกันบนไทม์ไลน์
Stagger
เป็นคุณสมบัติที่อนุญาตให้ใช้แอนิเมชันกับกลุ่มขององค์ประกอบโดยมีการหน่วงเวลาแบบเหลื่อมกัน (staggered delay) ทำให้เราสามารถระบุจำนวนเวลาที่จะหน่วงระหว่างแอนิเมชันแต่ละรายการ ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่น่าสนใจ เช่น การทำให้ตัวอักษรหรือการ์ดปรากฏขึ้นทีละรายการ
ScrollTrigger Plugin
อันนี้เป็นสิ่งที่ผมสนใจที่สุดเลย เพราะเป็นปลั๊กอินของ GSAP ที่ใช้สำหรับ กระตุ้นแอนิเมชันตามตำแหน่งการเลื่อน ของหน้าจอ (ใครสนใจดูรายละเอียดเต็มๆ ที่เว็บหลักของ ScrollTrigger ได้เลยครับ)
ฟังก์ชันของมันรวมถึงการตรึง (pinning) องค์ประกอบไว้กับหน้าจอขณะเลื่อน, การขัด (scrubbing) ซึ่งซิงค์ความคืบหน้าของแอนิเมชันโดยตรงกับการเลื่อนหน้าจอของผู้ใช้, และการทริกเกอร์แอนิเมชันเมื่อถึงจุดใดจุดหนึ่งของหน้าจอ
💡 ในการใช้งานปลั๊กอิน GSAP ต้องลงทะเบียนปลั๊กอินนั้นก่อน โดยใช้คำสั่ง gsap.registerPlugin()
Ease (การหน่วงความเร็ว)
กำหนดว่าแอนิเมชันจะเกิดขึ้นอย่างไร เช่น จะเกิดขึ้นเร็วขึ้นในช่วงเริ่มต้นและช้าลงในช่วงท้าย หรือให้มีเอฟเฟกต์แบบสปริง (elastic) หรือแบบกระดอน (bounce) เป็นต้น ถ้าอยากเห็นภาพ ลองเข้าไปเล่นใน Ease Visualizer ของ GSAP ได้เลยครับ จะเข้าใจมากขึ้นเยอะ
สรุป
การทำเว็บไซต์ให้มันน่าสนใจมากขึ้น ด้วยการทำโมชั่นที่โต้ตอบกับผู้ใช้ อาจเป็นแนวทางในการสร้างคุณค่าให้กับเว็บไซต์ได้มากขึ้น ซึ่งด้วยเหตุนี้ GSAP จึงเป็นความรู้ที่น่าสนใจ ที่จะช่วยให้อนาคตในวงการคนทำเว็บไซต์ของผมก้าวต่อไปได้